ผู้ชมทางบ้าน โวตกูออกไปที !
ช่วงนี้กระแส reality show มาแรง นะครับ ความจริงมันก็แรงมาตั้งนานแล้ว แล้วมันก็ปรับปรุงไปแบบต่าง ๆ
คงเป็นเรื่องสนุกนะครับ ที่เห็นว่าคนอื่นจะมีพฤติกรรมอย่างไรเพื่อตอบสนองกับสถานการณ์หนึ่ง ๆ
แต่ พอเจอกับตัวเอง คงขำไม่ออกหรอกครับ
ทีแรก ผมตั้งใจจะเขียน blog ไปเรื่อย ๆ พอกลับไปอ่าน เออว่ะ มีแต่เรื่อง depressed ๆ
คนอ่านก็คงไม่สบายใจตามกันไป แถมเพื่อนบ้านในหมู่บ้านก็จะแสนจะครี้นเครงเหลือเกิน
ในเมื่อทำใจเขียนเรื่องสนุกไม่ได้ ก็เลยหยุด (หยุดนะไม่ใช่เลิก)
แล้วก็มารู้ทีหลังว่า ไม่ได้เขียนนี่มันอึดอัด ไม่ได้ระบาย
ก็เลยต้องมาเขียน blog คนอื่นที่มันไม่ค่อยมีใครอ่านแทน
ความเครียดนี่แปลกนะครับ แต่ละคนมีวิธีเผชิญความเครียดแตกต่างกันไป
อย่างเช่น ไอ่เจ้าของ blog นี่ มันเครียดแล้วมันก็วิ่ง วิ่งๆ แล้วก็วิ่ง
จำได้ว่าครั้งหนึ่งผลสอบออก แล้วรู้ว่ามันได้คะแนนไม่ดี
แล้วมันก็หายตัวไป
เพื่อน ๆ แซวกันว่า ป่านนี้มันวิ่งไปถึงดอยสะเก็ตแล้ว
ส่วนผม เครียดแล้วคงต้องเขียน หรือไม่ก็ผุดอารมณ์ฝั่งศิลป์ออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง
ไม่เขียน ก็ถ่ายรูป ไม่ถ่ายรูป ก็ร้องเพลง แต่งเพลงไปตามเรื่องตามราว
ประหลาดดี
ช่วงนี้ก็จะเรียนจบแล้วครับ
ความเครียดมันก็ตามมาอีก
ว่าจบแล้วไปไหน
จบจะต่อไหม หรือจบแล้วกลับ
ต่อก็ยาวครับ อีกหลายปีกว่าจะจบเอก
เพื่อนๆ มันมีลูกไปหมดแล้ว
เดี๋ยวจะตามไม่ทัน
มีลูกทีหลังเดี๋ยวโดนลูกเพื่อนแกล้ง กลายเป็นเด็กขี้แง ไม่มีความสุข ก็ท่าจะยุ่งไปใหญ่
สายพันธ์จะเสียซ่ะเปล่า ๆ
ไอ่เต้ มันคงมาบอกประสาคนไม่เคยดู Broke Back Mountain ว่า มึงจะมีลูกได้เหรอ ?
แต่ตอนนี้มันเครียดจริง ๆ นะ
พับผ่าสิเอา
โวตผมออกจากเกมส์ไปทีดิ
จะได้มีข้ออ้าง
"คุณคือจุดอ่อน ขอเชิญกลับบ้านมือเปล่าได้เลยค่ะ"
ทำไมชีวิตมันไม่ชัด ๆ อย่างนี้นะ
ป๋าเคยบอกว่า ยิ่งมีทางเลือกชีวิตยิ่งเครียด
เห็นท่าจะจริง
คนที่ไม่มีทางเลือกมาก ก็กัดฟันทนยอมรับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แล้วมันก็ดีขึ้นเอง
Thomas Edison คนทำหลอดไฟฟ้า หลังจากทดลองทำหลอดแตกไปหลายพัน บอกว่า
คนทั่วไปไม่รู้หรอกว่า ได้ล้มเลิกสิ่งที่ทำไปทั้งที่จะใกล้ความสำเร็จอีกนิดเดียว
จริงเหรอว่ะ ! มันใกล้แค่ไหนกันเชียว
บ่นมามากแล้ว
แล้วก็คิดว่า คงจะ keep บ่นing ที่ blog นี้ไปเรื่อย ๆ
จนกว่าใครจะหลงมาเจอ
เจอแล้วก็ comment เสียหน่อย จะได้รู้ว่ามีใครผ่านมา
0 Comments:
Post a Comment
<< Home